Uncategorized

คุณอยากเป็น Keyboard Warrior หรือ Cyberbullying ?

เคยตื่นมาแล้วไม่อยากอ่าน Social Media กันบ้างมั๊ยค่ะ ยิ่งช่วงนี้รู้สึกมั๊ยว่า คนเราฟาดฟัน เกรี้ยวกราดมากขึ้น บนแป้นพิมพ์ของตัวเองทั้งในหน้า social media ของตัวเองและลามปามไปให้ความคิดเห็นของตัวเองในหน้าคนอื่น เราเอาความคิดเราเป็นหลักโดยไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกผู้อื่น เราคิดว่าเราเป็น Keyboard Warrior ต้องออกมาปกป้องโลก แต่จริงๆแล้วรู้มั๊ยเอ่ยมันคือการ Bully คนอื่นนั่นเอง

 

บางครั้งความคิดเรา อาจจะไม่ต้องเปลี่ยนเป็นตัวหนังสือบ้างก็ได้ เก็บไว้ในใจเก็บไว้ในสมอง ถ้ามันรกมากก็หาทางกำจัดมันทิ้งด้วยตัวเราเองโดยไม่ต้องไปพึ่งพาและรุกรานผู้อื่น บางครั้งหลายครั้งหลายครา เราต้องบอกตัวเองว่า ฟ้าไม่ได้ส่งคุณมาปกป้องโลก การที่คุณมีความเห็นหรืออยากให้ความเห็นในโลกของ Social Media นั้น มันไม่ได้ทำให้คุณเป็นฮีโร่ มันทำให้คุณหงุดหงิดใจ เมื่อมีคนเข้ามาไม่เห็นด้วยกับคุณ หลังจากนั้นมันคือสงครามน้ำลายที่พ่นใส่กันในรูปแบบของตัวหนังสือ คุณคิดว่ามันจะดีมากกว่ามั๊ย ถ้าบางครั้งเราอ่านอะไรแล้วมองผ่าน อ่านให้ลึกซึ้ง อ่านในเนื้อหาไม่ใช่แค่หัวข้อ แล้วถามตัวเองว่า มันใช่เรื่องของเรามั๊ย ถ้าคนต้องการความคิดเห็น ความคิดเห็นของคุณนั้นมันเป็นประโยชน์มั๊ยหรือมันทำร้ายคนอื่นมั๊ย หรือบางครั้งคุณคิดไปเองแล้วเขียนไปเรื่อยจนกระทั่งเป็นข้อความที่กล่าวหา เหน็บแนมคนอื่น

 

 

หลายคนแชร์ข่าวจริงบ้างเท็จบ้าง และคนที่ชอบใจก็เข้ามาผสมโรง คนไม่ชอบก็ร่วมแจมด้วย จนกลายเป็นสงครามย่อมๆ จะดีกว่ามั๊ยถ้าเราคิดก่อนโพสต์ ถ้าเรานั่งพิจรณาก่อนว่าถ้าแชร์ ผลตอบรับจะเป็นอย่างไร เราจะหวังให้ทุกคนเข้าข้างเข้าใจเราไม่ได้หรอก หลายคนหลายความคิด บางครั้งคุณแค่โพสต์เพื่อแดกดันใครแล้วทำให้คุณสะใจ แต่เมื่อเค้าคนนั้นหรือบางคนที่อยู่ดีๆมโนไปเองว่าคุณว่าเค้าแล้วเข้ามาตอบกลับคุณ คุณตอบได้มั๊ยว่าวันนั้นทั้งวันจิตใจคุณจะเป็นเช่นไร บางครั้งบางคนโกรธสามีภรรยาก็โพสต์ระบายความไม่ดีของกันและกัน สิ่งเหล่านี้เมื่อคุณทำร้ายความรู้สึกคนที่คุณรักในที่สาธารณะให้ผู้อื่นรับรู้เช่นนี้ ความรู้สึกที่เสียกันไปมันเรียกกลับมาไม่ได้จริงๆ เพราะฉะนั้น ก่อนมือจะพิมพ์ ก่อนใจจะพาไป ถามตัวเองก่อนว่า โพสต์แล้วผลดีคืออะไร และผลร้ายจะมีแค่ไหน แชร์ในสิ่งที่ถูก แชร์ในเรื่องที่จริง แต่ถ้าสิ่งที่แชร์นั้นข้อมูลถูกต้องแต่คุณรู้ว่ามันจะต้องสร้างสงครามย่อมๆ เราหยุดตัวเองไว้ แล้วรอแชร์ในสิ่งที่สร้างสรรค์จะดีกว่าหรือไม่

 

 

แล้วถ้าคุณเป็นคนอ่านโพสเหล่านั้น จะดีกว่ามั๊ย ถ้าคุณอ่านอย่างถ่องแท้ และก่อนจะพิมพ์ความคิดเห็นของคุณลงไป คุณถามตัวเองว่า มันเป็นหน้าที่ของคุณหรือความเห็นคุณนั้นจะเป็นผลบวกหรือผลลบกับเจ้าของโพสต์และตัวคุณเอง เพราะไม่เช่นนั้น ทั้งคนโพสต์และคนตอบ วันๆไม่ต้องได้ทำอะไรกันแน่ๆ นอกจากหัวเสียใส่กัน แล้วคอยเช็คว่ามีใครเข้าข้างตัวเองบ้าง มันกลายเป็นสงครามจิต และลามปามไปยังเพื่อนฝูงที่คุณโทรหาต้องมาหัวเสียไปกับคุณ เพราะคุณโดนเจ้าของโพสต์ตอกกลับหรือแฟนคลับเจ้าของโพสต์ไม่ชอบคอมเมนท์ของคุณ บางครั้งเจ้าของโพสต์บางคนถึงกลับต้องปิดโพสต์หนีไปเพราะอับอายที่คนเข้าไปต่อว่า ทั้งๆที่โพสต์นั้นเค้าอาจจะขอความช่วยเหลือแต่คนที่ตอบกลับนั้นคิดไปเอง คิดลึกนึกคิดไปว่าเจ้าของโพสเป็นลูกเต้าของตัวเองและต้องสั่งสอน บางครั้งเราต้องท่องจำขึ้นไว้ว่า “มันไม่ใช่เรื่องของเรา” หรือ ภาษาอังกฤษวันล่ะคำ “It’s none of your business”

 

เห็นภาพกันมั๊ยเอ่ย ถ้าเราคิดก่อนโพสต์ คิดก่อนคอมเมนท์ แล้วนั้น Social media ของเราและเพื่อนๆรอบตัวเราจะสะอาด แค่ไหน เราตื่นมารับวันใหม่เห็นอะไรที่สดชื่น เรามาทำให้สังคมออนไลน์เราน่าอยู่กันดีกว่ามั๊ยค่ะ อย่าให้ทุกความคิดหลั่งไหลไปยังปลายนิ้วของคุณ อย่าอยากเป็นนักรบคีย์บอร์ดหรือเป็นคนขี้ระรานคนอื่นด้วยตัวหนังสือ ทำให้คนรู้จักเนื้อในที่แท้จริงของตัวเรา ดีกว่าให้เค้าสงสัยว่า เนื้อแท้ของเรานั้นคือคนใน Social Media หรือ คนที่เค้ารู้จักมักคุ้นในโลกของความเป็นจริงกันแน่

 

ที่สำคัญที่สุดเริ่มจากตัวเราก่อนและถ้าคุณมีลูกมีหลาน สอนเค้าให้เข้าใจตั้งแต่เล็กๆถึงผลดีผลเสียของสังคมออนไลน์ ลูกหลานเราจะได้โตมา มีความคิดก่อนพูด และมีความคิดก่อนพิมพ์ค่ะ

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Verified by MonsterInsights